โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข
เพื่อเมตตาและสันติสุข : For Compassion and Peace
โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข มุ่งมั่นที่จะนำพาความสุขและเสียงหัวเราะไปสู่ทุกภาคส่วนของสังคมไทย เราเชื่อมั่นในพลังบวกของโยคะหัวเราะที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของผู้คน และสร้างสรรค์สังคมที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและสันติสุข
สร้างประเทศไทยให้เป็นดินแดนแห่งเสียงหัวเราะ
เยียวยาจิตใจ ลดความเครียด
ภารกิจหลักของเราคือการส่งเสริมและเผยแพร่วิชาโยคะหัวเราะในรูปแบบที่มีสติ เมตตา และพลังภาวนา เพื่อเป็นเครื่องมือในการเยียวยาจิตใจ ลดความเครียด และสร้างความสุขจากภายในสู่ภายนอก
เชื่อมโยงผู้คน สร้างความเข้าใจ
เราเล็งเห็นว่าเสียงหัวเราะคือยาชั้นดีที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน ขจัดความแตกต่าง และสร้างความเข้าใจอันดีในชุมชน
สร้างสุขภาวะและสันติภาพโลก
การปฏิบัติโยคะหัวเราะไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนจิตสำนึกของโลกใบนี้ให้เต็มไปด้วยพลังงานบวกและสันติภาพ
เมื่อแต่ละบุคคลสามารถจัดการกับอารมณ์และสร้างความสุขให้ตนเองได้ สันติสุขก็จะบังเกิดในสังคม และขยายผลไปทั่วโลก โครงการจัดตั้งมูลนิธิฯ มุ่งมั่นที่จะให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบของการเป็นดินแดนแห่งเสียงหัวเราะ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงความสุขและมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน
ร่วมสนับสนุน
วิสัยทัศน์ของเรา
ขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น "ดินแดนแห่งเสียงหัวเราะ" ที่ซึ่งทุกครัวเรือนและทุกชุมชนเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความสุข ความเข้าใจ และการให้อภัย
ใช้โยคะหัวเราะเป็นเครื่องมือฟื้นฟูสุขภาวะ และปลุกจิตสำนึกเมตตา เบิกบาน ในมวลมนุษย์ เพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ปลดล็อกความเครียด และสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์
สร้างสังคมที่มีสันติภาพและความสุขอย่างยั่งยืน ด้วย "เสียงหัวเราะที่มีรากในความเมตตาและสันติสุข" ซึ่งมาจากจิตใจที่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยความปรารถนาดีต่อผู้อื่น
ครูเก๋ วรารักษ์ สู่โนนทอง ประธานกรรมการโครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข ได้ยอมจำนนต่อเสียงเรียกภายใน ที่จะอุทิศชีวิตให้กับการขับเคลื่อน 'เสียงหัวเราะที่มีสติ เมตตา และพลังภาวนา' ในฐานะพลังเยียวยาและเปลี่ยนจิตสำนึกของผู้คน
การอุทิศตนของครูเก๋เกิดจากความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในศักยภาพของโยคะหัวเราะ ในการเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการเยียวยาจิตใจ ลดความเครียด และสร้างความสุขจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการผสมผสานหลักการของโยคะหัวเราะเข้ากับการฝึกสติ การเจริญเมตตา และการภาวนา โครงการจัดตั้งมูลนิธิฯ มุ่งหวังที่จะให้โยคะหัวเราะเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันของผู้คน เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ในชีวิตได้อย่างสงบและเบิกบาน
เราเชื่อมั่นว่าเมื่อแต่ละบุคคลสามารถจัดการกับอารมณ์และสร้างความสุขให้ตนเองได้ สันติสุขก็จะบังเกิดในสังคม และขยายผลไปทั่วโลก โครงการจัดตั้งมูลนิธิฯ มุ่งมั่นที่จะให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบของการเป็นดินแดนแห่งเสียงหัวเราะ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงความสุขและมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน การเดินทางนี้จะขับเคลื่อนด้วยความรัก ความเมตตา และความมุ่งมั่นที่จะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะบนใบหน้าของคนไทยทุกคน
พันธกิจของเรา
โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุขมุ่งมั่นที่จะนำเสียงหัวเราะและพลังบวกไปสู่สังคมไทย ผ่านพันธกิจหลักที่ครอบคลุมการสร้างสรรค์ ขับเคลื่อน และต่อยอด เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนของทุกคน
สร้างเครือข่ายความร่วมมือ
จัดตั้งศูนย์กลางความร่วมมือของผู้นำโยคะหัวเราะทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนการฝึกอบรมและรับรองให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อเชื่อมโยงและผนึกกำลังกับองค์กรนานาชาติ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ขยายผลสู่ทุกภาคส่วน
ส่งเสริมโยคะหัวเราะให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตในโรงเรียน โรงพยาบาล ชุมชน และองค์กรต่าง ๆ เน้นการเสริมสร้างพลังของผู้หญิงให้เป็นแกนนำในการขับเคลื่อนความสุข และยกระดับโยคะหัวเราะให้นวัตกรรมด้านสุขภาวะทางกายและสุขภาพจิต
วิจัย พัฒนา และเผยแพร่
ดำเนินการวิจัย พัฒนา และเผยแพร่ความรู้ด้านโยคะหัวเราะในรูปแบบวิชาการและสร้างสรรค์ จัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเยียวยา การภาวนา และการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ เพื่อศึกษาผลกระทบและพัฒนาวิธีการนำเสนอให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เป้าหมาย 3 ปี
ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า มูลนิธิมีเป้าหมายที่ชัดเจนและท้าทาย เพื่อให้พันธกิจของเราบรรลุผลและสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง
1000+
ผู้นำโยคะหัวเราะ
ผู้นำโยคะหัวเราะที่ได้รับการอบรมและขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ เพื่อสร้างกำลังสำคัญในการเผยแพร่โยคะหัวเราะไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย
77
จังหวัด
มีชมรมโยคะหัวเราะหรือกิจกรรมประจำอย่างน้อย 1 แห่งในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงโยคะหัวเราะได้อย่างสม่ำเสมอ
300
โรงเรียน
เข้าร่วมโครงการโยคะหัวเราะ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพจิตและทักษะการเผชิญความเครียดให้กับนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา
1M+
คนเข้าถึง
ผ่านการสื่อสารออนไลน์และกิจกรรมของมูลนิธิ เช่น การไลฟ์สด เวิร์คช็อปออนไลน์ และการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อให้เสียงหัวเราะเข้าถึงผู้คนได้มากที่สุด
เรามั่นใจว่าด้วยความทุ่มเทและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เป้าหมายเหล่านี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยั่งยืนในสังคมไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสุขและเสียงหัวเราะอย่างแท้จริง
โครงการโยคะหัวเราะในโรงเรียน
โครงการโยคะหัวเราะในโรงเรียนมุ่งมั่นที่จะนำพลังแห่งเสียงหัวเราะเข้าสู่ระบบการศึกษาของไทย เพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเติบโตอย่างมีความสุขและยั่งยืน เราได้พัฒนาหลักสูตรโยคะหัวเราะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับครูและนักเรียน โดยเน้นการฝึกปฏิบัติที่ง่าย สนุก และเข้าถึงได้สำหรับทุกเพศทุกวัย
หลักสูตรของเราครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานของโยคะหัวเราะ การฝึกหายใจ การเคลื่อนไหวที่ส่งเสริมการหัวเราะแบบไร้เงื่อนไข ไปจนถึงเทคนิคการนำกลุ่มและการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ เรายังได้จัดโครงการฝึกอบรมครูให้เป็นผู้นำโยคะหัวเราะที่มีความสามารถ เพื่อให้พวกเขาสามารถนำกิจกรรมโยคะหัวเราะไปใช้ในห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง
ยิ่งไปกว่านั้น เรายังพัฒนาเยาวชนแกนนำ โดยคัดเลือกนักเรียนที่มีความสนใจและศักยภาพ มาฝึกฝนเพิ่มเติมให้เป็นผู้ช่วยครูในการจัดกิจกรรมและเป็นต้นแบบที่ดีในโรงเรียน เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความเป็นผู้นำในหมู่นักเรียนด้วยกันเอง และมีการจัดกิจกรรมโยคะหัวเราะประจำสัปดาห์ในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การฝึกฝนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตในโรงเรียน
โครงการนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทางอารมณ์ จิตใจ และความสัมพันธ์ของนักเรียนและครู ผ่านการฝึกโยคะหัวเราะที่ง่าย ปลอดภัย และมีพลังในการเปิดใจ–เบิกบานจากภายใน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างบรรยากาศในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และการยอมรับ
พัฒนาทักษะชีวิต
ส่งเสริม EQ (Emotional Quotient), Self-Regulation (การกำกับดูแลตนเอง) และ Empathy (ความเห็นอกเห็นใจ) ผ่านกิจกรรมโยคะหัวเราะที่เน้นการหัวเราะอย่างมีสติ ซึ่งจะช่วยลดภาวะเครียด ความรุนแรง และความกดดันที่ครูและนักเรียนต้องเผชิญในชีวิตประจำวันและในการเรียนการสอน
เปลี่ยนบรรยากาศโรงเรียน
สร้างพื้นที่แห่งความอบอุ่น ความสัมพันธ์ที่ดี และการเติบโตของทั้งกายและใจ ด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้จริงได้ทันที ครูสามารถนำโยคะหัวเราะไปประยุกต์ใช้ในห้องเรียนหรือกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐานโยคะมาก่อน ทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ
สร้างวัฒนธรรมเชิงบวก
ปลูกฝังค่านิยมของการคิดบวก การให้อภัย และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผ่านการหัวเราะร่วมกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลายและเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน ก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรในโรงเรียนที่เข้มแข็งและเกื้อกูล
เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้
การฝึกโยคะหัวเราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนในสมอง ทำให้สมองสดชื่น แจ่มใส นักเรียนมีสมาธิและจดจ่อกับการเรียนได้ดีขึ้น ลดความเบื่อหน่ายและความเหนื่อยล้าจากการเรียนรู้ ทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เพื่อขยายผลของโครงการ เราได้สร้างความร่วมมือร่วมกับ สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) เขตพื้นที่การศึกษา และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้โครงการโยคะหัวเราะในโรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการดูแลสุขภาวะนักเรียน และสามารถเข้าถึงโรงเรียนได้ในวงกว้าง
โรงเรียนต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาในปี 2567-2568 ได้แก่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 24 จังหวัดพะเยา (โรงเรียนที่ดูแลเด็กด้อยโอกาสและยากจน), โรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูล (โรงเรียนการศึกษาพิเศษสำหรับเด็กพิการทางสติปัญญา) และโรงเรียนปิยมิตรวิทยา อ.เชียงคำ จ.พะเยา (โรงเรียนการศึกษาเอกชน) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำโยคะหัวเราะไปสู่เด็กและเยาวชนในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
เราเชื่อมั่นว่า โครงการโยคะหัวเราะในโรงเรียน จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์อนาคตของชาติที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความเมตตา และความสุขอย่างยั่งยืน
โครงการ "แม่หัวเราะ"
โครงการ "แม่หัวเราะ" เป็นเสาหลักสำคัญของโครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะฯ ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างพลังและศักยภาพของผู้นำหญิง โดยสนับสนุนให้แม่บ้านในชุมชน ผู้ดูแลครอบครัว และสตรีผู้สูงอายุ สามารถดูแลตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้อย่างสงบ เข้มแข็ง และมีความสุขจากภายใน
เราเชื่อมั่นว่าเสียงหัวเราะของผู้หญิงคือพลังแห่งการเยียวยาที่อ่อนโยนแต่ทรงพลัง โครงการนี้จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อฟื้นคืนศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของผู้หญิงในฐานะ "ผู้นำแห่งความสงบ" ที่จะสร้างคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงจากครัวเรือนสู่สังคมที่กว้างใหญ่ขึ้น
ในสังคมที่ผู้หญิงมักแบกรับภาระและความเครียด การให้เครื่องมืออย่างโยคะหัวเราะจะช่วยให้พวกเธอได้ปลดปล่อยความตึงเครียด สร้างพื้นที่แห่งความสุข และเชื่อมโยงกับผู้อื่นในชุมชน การหัวเราะร่วมกันจะสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น นำไปสู่การเยียวยาจิตใจ และเสริมสร้างความสามารถในการเผชิญกับความท้าทายในชีวิตประจำวันด้วยทัศนคติเชิงบวก
ฝึกอบรมแม่หัวเราะ
จัดหลักสูตรเข้มข้น 1–3 วัน สำหรับผู้หญิงทุกช่วงวัย เน้นการฝึกปฏิบัติโยคะหัวเราะอย่างปลอดภัยและสนุกสนาน รวมถึงการภาวนา การใช้ชีวิตอย่างมีสติ และทักษะการฟังอย่างเมตตา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและเป็นต้นแบบที่ดีในครอบครัวและชุมชน
โครงการนำร่องและขยายผล
ภายใน 1 ปี มูลนิธิจะจัดโครงการนำร่องใน 5–10 ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการจัดตั้ง "กลุ่มแม่หัวเราะประจำหมู่บ้าน" โดยประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคม เช่น อสม. และ รพ.สต. เพื่อให้กลุ่มแม่หัวเราะเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างการดูแลสุขภาวะในชุมชน และสามารถจัดกิจกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ
สานสร้างเครือข่ายผู้หญิงสายภาวนา–หัวเราะ
มุ่งมั่นสร้างเครือข่าย "ผู้หญิงสายภาวนา–หัวเราะ" เพื่อทำงานทั้งในระดับจิตวิญญาณและสังคม เน้นการฝึกภาวนา การบ่มเพาะความเมตตา และการเชื่อมโยงพลังภายในสู่ภายนอกเพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม กิจกรรมครอบคลุมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพัฒนาศักยภาพ และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผู้หญิงได้ใช้เสียงหัวเราะเป็นสะพานเชื่อมใจสู่การเยียวยาและสร้างสรรค์สังคมที่สงบสุข
แม่หัวเราะได้ ลูกจะเบา ชุมชนจะเปิด หญิงใดหัวเราะอย่างแท้จริง หญิงนั้นเปลี่ยนโลกได้ เสียงหัวเราะของผู้หญิง คือเสียงปลุกเมตตาให้แผ่นดิน
ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โครงการ "แม่หัวเราะ" จะสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้แก่สตรีไทย นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่งดงามและยั่งยืนในสังคม สร้างชุมชนที่เต็มไปด้วยความสุข ความเมตตา และเสียงหัวเราะที่ดังก้องกังวานไปทั่วแผ่นดิน
ชมรมโยคะหัวเราะ เพื่อชุมชนเบิกบาน
โครงการ "ชมรมโยคะหัวเราะ เพื่อชุมชนเบิกบาน" มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจัดตั้งชมรมโยคะหัวเราะประจำชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนในสังคมไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน ได้เข้าถึงพลังแห่งการหัวเราะอย่างสม่ำเสมอและง่ายดาย เราเชื่อว่าการหัวเราะเป็นยาบำบัดชั้นเลิศที่สามารถช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และความโดดเดี่ยวในสังคมปัจจุบันที่ผู้คนต้องเผชิญกับความกดดันนานาประการ
ชมรมเหล่านี้จะเป็นพื้นที่สำคัญที่ผู้คนจะได้พบปะกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ คลายทุกข์ สร้างสัมพันธ์อันดี และเยียวยาซึ่งกันและกันผ่านเสียงหัวเราะที่ไร้เงื่อนไข นอกจากนี้ เรายังได้สร้างเวทีสำหรับการอบรมผู้นำชุมชน การจัดหาพี่เลี้ยงที่คอยให้คำแนะนำ และพัฒนาคู่มือการจัดกิจกรรมที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้นำในแต่ละพื้นที่สามารถริเริ่มและดำเนินกิจกรรมโยคะหัวเราะได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ก่อให้เกิดชุมชนที่แข็งแกร่งและมีความสุขจากภายใน
เปลี่ยนพื้นที่เงียบให้มีชีวิตชีวา
ในหลายชุมชนมีพื้นที่ที่เงียบสงบ อาจขาดการมีส่วนร่วมทางสังคม หรือมีผู้ที่รู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิต โครงการนี้มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยน "พื้นที่เงียบ เหนื่อย โดดเดี่ยว" เหล่านี้ให้กลายเป็นพื้นที่ของความสัมพันธ์ ความเบิกบาน และการเยียวยาร่วมกัน โดยการนำกิจกรรมโยคะหัวเราะเข้าไปสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังงานบวก เสียงหัวเราะ และความเชื่อมโยง
สนับสนุนการจัดตั้งชมรม
เราให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งชมรมโยคะหัวเราะในชุมชน โดยไม่จำกัดสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์สุขภาพ สถานีอนามัย (รพ.สต.) ศาลาวัด โรงเรียน ศูนย์ผู้สูงวัย หรือแม้กระทั่งบ้านของผู้นำชุมชนที่เปิดใจต้อนรับ เราช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดหาวิทยากร การอบรมผู้นำ และการให้คำแนะนำในการดำเนินกิจกรรม เพื่อให้ชมรมสามารถเกิดขึ้นได้จริงและเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายกลุ่ม
มีพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ
เพื่อให้การดำเนินงานของชมรมเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน เรามีทีมพี่เลี้ยงผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยติดตาม ประสานงาน และให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด พี่เลี้ยงเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้น เช่น ความไม่มั่นใจของผู้นำกลุ่ม การสร้างกลุ่มผู้เข้าร่วมในระยะเริ่มต้น หรือการประยุกต์ใช้โยคะหัวเราะให้เข้ากับบริบทของแต่ละชุมชน เพื่อให้ชมรมสามารถเติบโตและเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนได้อย่างแท้จริง
ด้วยชมรมโยคะหัวเราะเหล่านี้ ชุมชนจะมีพื้นที่สุขภาวะทางจิตใจอย่างเป็นรูปธรรม ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ผู้คนจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป แต่จะรู้สึกว่ามีที่พึ่ง มีกลุ่มเพื่อน มีกิจกรรมที่ช่วยเติมพลังชีวิตให้กลับมาดูแลตนเองและครอบครัวได้อย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัยที่ต้องการเพื่อนคลายเหงา ผู้ป่วยที่ต้องการกำลังใจ คุณแม่บ้านที่ต้องการผ่อนคลายความเครียด หรือเยาวชนที่ต้องการพื้นที่สร้างสรรค์ ทุกคนจะได้พบปะและเติมเต็มพลังใจซึ่งกันและกัน เกิดเป็นความเข้มแข็งจากภายในที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่สามารถพึ่งพิงพลังจากชุมชนและเสียงหัวเราะของตนเองได้อย่างยั่งยืน
โยคะหัวเราะเพื่อสุขภาวะและสุขภาพจิต
โครงการนี้มุ่งนำโยคะหัวเราะไปประยุกต์ใช้ในโรงพยาบาล คลินิกสุขภาพจิต ศูนย์สุขภาพจิต และสถานพยาบาลต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมโยคะหัวเราะสำหรับผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงวัย และกลุ่มเปราะบาง ด้วยการฝึกที่อ่อนโยน ปลอดภัย และเปี่ยมด้วยความหวัง เราเชื่อมั่นว่าเสียงหัวเราะคือพลังบำบัดจากภายในที่สามารถเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพและจิตใจ การนำโยคะหัวเราะเข้าสู่ระบบการดูแลสุขภาพจึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตแบบองค์รวม สร้างบรรยากาศแห่งความเบิกบาน และความหวังภายในสถานพยาบาล
เป้าหมาย
ใช้เสียงหัวเราะที่มีสติและเมตตาเป็นเครื่องมือเสริมพลังชีวิต ลดความเครียดเรื้อรัง บรรเทาภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า สร้างความเชื่อมโยง และนำพาความเบิกบานมาสู่กลุ่มผู้ป่วย ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์ การหัวเราะอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขตามธรรมชาติ ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด ปรับสมดุลระบบประสาท และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ การหัวเราะร่วมกันยังช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้ป่วยได้แสดงอารมณ์ และส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่สำคัญต่อการฟื้นฟูสุขภาพจิตใจ
กลุ่มเป้าหมายหลัก
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เบาหวาน ความดัน มะเร็ง ฯลฯ): ลดความเครียดจากการเจ็บป่วย พัฒนาทัศนคติเชิงบวก และบรรเทาอาการปวดบางชนิด
  • ผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์ดูแลหรืออยู่บ้านลำพัง: ลดความเหงา ความโดดเดี่ยว และภาวะซึมเศร้า เสริมสร้างความมีชีวิตชีวาและการเคลื่อนไหว
  • ผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟู: ช่วยบำบัด ปลดปล่อยอารมณ์ ลดความกังวล และพัฒนาทักษะทางสังคม
  • ผู้ที่มีภาวะ Burnout / ซึมเศร้า / สูญเสีย: ปลดปล่อยความตึงเครียด ฟื้นฟูพลังใจ และสร้างมุมมองใหม่
  • ครอบครัวผู้ป่วยและผู้ดูแล (Caregiver): มอบพื้นที่ผ่อนคลาย ลดภาวะหมดไฟ และสร้างความเข้มแข็งในการดูแล
  • แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์: บำบัดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี และสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร
แนวทางการจัดกิจกรรม
กิจกรรมโยคะหัวเราะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เข้าร่วมแต่ละกลุ่ม โดยเน้นความยืดหยุ่นและการปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกให้เข้ากับข้อจำกัดต่างๆ เรามีการใช้เทคนิคการหัวเราะแบบต่างๆ ควบคู่กับการหายใจแบบโยคะอย่างลึกซึ้ง และการทำสมาธิสั้นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านกายภาพ จิตใจ และอารมณ์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดเวิร์กช็อปสั้นๆ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียดและการดูแลสุขภาพจิตด้วยตนเอง
เมื่อบุคลากรทางการแพทย์มีพื้นที่พักใจ ครอบครัวรู้สึกมีเครื่องมือดูแลใจร่วมกับการรักษา และผู้ป่วยมีพลังใจเพิ่มขึ้นในการดูแลตนเอง เสียงหัวเราะในโรงพยาบาลจึงไม่ใช่เรื่องตลก แต่คือการคืนพลังใจสู่ชีวิต โครงการนี้จึงเป็นมากกว่าการบำบัด แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งความเมตตา ความเข้าใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกันภายในสถานพยาบาล ก่อให้เกิดระบบนิเวศแห่งการเยียวยาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จริง นำไปสู่การฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมที่ยั่งยืน
อบรมและรับรองผู้นำโยคะหัวเราะ
มูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุขมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างและพัฒนาผู้นำโยคะหัวเราะรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเน้นการอบรมตามมาตรฐานสากลของ Laughter Yoga International และร่วมมือกับทีมผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าหลักสูตรและการดำเนินการเป็นไปอย่างมีคุณภาพสูงสุด ผู้นำที่ผ่านการอบรมจะถูกบันทึกในระบบฐานข้อมูลและได้รับใบรับรองที่เป็นสากล เพื่อสนับสนุนการทำงานของพวกเขาในการนำเสียงหัวเราะไปสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
การฝึกอบรมของเราไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การให้ใบประกาศนียบัตร แต่ยังรวมถึงการสร้างระบบการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเวิร์กช็อปเพิ่มเติม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการให้คำปรึกษา เพื่อให้ผู้นำทุกคนมีโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง
ระดับผู้นำเบื้องต้น (Laughter Yoga Leader)
หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการปูพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็นผู้นำโยคะหัวเราะ ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้เทคนิคการหัวเราะแบบต่างๆ ควบคู่กับการหายใจแบบโยคะ รวมถึงหลักการสำคัญของการนำกลุ่มและการสร้างบรรยากาศแห่งความสุข
ระดับครูผู้ฝึกสอน (Laughter Yoga Teacher)
หลักสูตรนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในระดับผู้นำ โดยจะเน้นการเจาะลึกในด้านการสอน การจัดการหลักสูตร และการฝึกอบรมผู้นำโยคะหัวเราะคนอื่นๆ ผู้ที่สำเร็จในระดับนี้จะได้รับทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการจัดหลักสูตรอบรมผู้นำโยคะหัวเราะเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง
การพัฒนาต่อเนื่องและความเชี่ยวชาญ
เราเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้ผู้นำและครูผู้ฝึกสอนสามารถเติบโตได้อย่างลึกซึ้งและต่อเนื่อง เราจึงจัดให้มีวงเรียนรู้เชิงลึก การอบรมเสริมทักษะเฉพาะทาง รวมถึงเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากทั่วโลก

หลักสูตรการอบรมผู้นำและครูผู้ฝึกสอนโยคะหัวเราะของเราทั้งหมดใช้หลักสูตรที่เป็นมาตรฐานและได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Dr. Madan Kataria ผู้ก่อตั้งโยคะหัวเราะ และ Laughter Yoga International ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลก ผู้สอนในหลักสูตรของเราทุกคนล้วนเป็นครูผู้สอนที่ได้รับใบอนุญาต Certified Teacher หรือ Master Trainer อย่างเป็นทางการ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงในศาสตร์โยคะหัวเราะ ผู้เข้าอบรมที่สำเร็จหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรที่สามารถนำไปใช้และได้รับการยอมรับได้ทั่วโลก
การอบรมและรับรองผู้นำโยคะหัวเราะนี้เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจของมูลนิธิฯ เพื่อสร้างผู้นำที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีภาวะภายในที่เปี่ยมด้วยเมตตา ผู้นำเหล่านี้จะสามารถนำเสียงหัวเราะได้อย่างปลอดภัย เยียวยาผู้คนได้อย่างแท้จริง และเป็นส่วนหนึ่งของการขยายเครือข่ายผู้นำโยคะหัวเราะทั่วประเทศอย่างมีคุณภาพ ครอบคลุมทุกภูมิภาค เรามุ่งมั่นที่จะทำให้โยคะหัวเราะเป็นศาสตร์ที่เข้าถึงได้ ปลอดภัย และนำไปสู่การเยียวยาจิตใจและร่างกายอย่างยั่งยืนในทุกส่วนของสังคมไทย
กิจกรรมระดับชาติและออนไลน์
เพื่อขับเคลื่อนพันธกิจของเราในการนำเสียงหัวเราะแห่งเมตตาและสันติสุขไปสู่ผู้คนในวงกว้าง โครงการจัดตั้งมูลนิธิจึงได้ริเริ่มและจัดกิจกรรมทั้งในระดับชาติและบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายความสุขที่ยั่งยืน และเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เข้าถึงพลังบำบัดของโยคะหัวเราะได้อย่างสม่ำเสมอ
วันโยคะหัวเราะแห่งชาติ
จัดงาน "วันโยคะหัวเราะแห่งชาติ" ประจำปี ซึ่งเป็นกิจกรรมระดับประเทศที่รวมพลังผู้นำโยคะหัวเราะจากทุกภูมิภาค และประชาชนทั่วไปให้มาร่วมกันหัวเราะเพื่อสุขภาพที่ดี ความหวังในชีวิต และสันติภาพที่ยั่งยืน
งานนี้เป็นมากกว่าการรวมตัวประจำปี แต่เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างวันรวมพลังของผู้นำโยคะหัวเราะทั่วประเทศ เปิดเวทีให้ประชาชนได้สัมผัสพลังเสียงหัวเราะอย่างลึกซึ้งและเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงกิจกรรมโยคะหัวเราะในชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล และแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบ
เรามุ่งหวังให้ "วันโยคะหัวเราะแห่งชาติ" เป็นสัญลักษณ์ของการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวผ่านเสียงหัวเราะ สร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังการปฏิบัติโยคะหัวเราะในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน นำไปสู่การลดความเครียดในสังคม และเสริมสร้างพลังใจให้พร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในยุคปัจจุบัน
Laughter Yoga Online Club
จัดกิจกรรม Laughter Yoga Online Club หัวเราะต่อเนื่องแบบกลุ่ม เพื่อปลุกพลังชีวิต สร้างความสามัคคี และส่งเสริมการหัวเราะร่วมกันทั่วประเทศทุกวัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเชื่อมต่อและรับพลังบวกได้ทุกเมื่อ
คลับออนไลน์นี้เป็นพื้นที่ให้ประชาชนทั่วประเทศได้หัวเราะร่วมกันเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ฟื้นคืนพลังชีวิตในแต่ละวัน ลดความเครียดสะสม และสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้แข็งแกร่ง เราเชื่อมโยงผู้นำโยคะหัวเราะในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเป็นผู้ดำเนินกิจกรรม
Laughter Yoga Online Club ไม่เพียงเป็นพื้นที่สำหรับการหัวเราะ แต่ยังเป็นพื้นที่ภาวนาระดับประเทศผ่านเสียงหัวเราะอย่างลึกซึ้ง เป็นการฝึกจิตที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้เข้าถึงความสุขสงบภายใน และสร้างความเบิกบานที่แท้จริงจากจิตวิญญาณ
เสียงหัวเราะที่เบิกบานจากภายใน ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่คือพลังงานชีวิตที่แท้ เมื่อคนจำนวนมากหัวเราะพร้อมกัน ไม่เพียงส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่ยังสามารถปลุกจิตสำนึกหมู่ เชื่อมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียว และแปรเปลี่ยนความกลัว ความเฉยชา ให้กลายเป็นคลื่นความสุขเพื่อสันติภาพ
ด้วยกิจกรรมเหล่านี้ คนไทยจึงมีพลังใจหมุนเวียนไม่รู้จบ จากการหัวเราะสม่ำเสมอผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญระดับชาติ หรือการเชื่อมต่อกันทุกวันผ่านโลกออนไลน์ ผู้นำโยคะหัวเราะทั่วประเทศรู้สึกมีบ้านที่อบอุ่น มีเวทีให้แสดงศักยภาพ และมีโอกาสในการเติบโตทางจิตวิญญาณและทักษะความเป็นผู้นำ
ชมรมโยคะหัวเราะทั่วประเทศขยับจากการเป็นกิจกรรมในระดับพื้นที่สู่การรวมพลังระดับชาติ เสียงหัวเราะจึงกลายเป็น "คลื่นพลังจิตรวมหมู่" ที่ไม่เพียงช่วยเปลี่ยนภาวะความเครียดของแผ่นดินให้ผ่อนคลายลง แต่ยังสร้างวัฒนธรรมแห่งการแบ่งปันความสุข ความเมตตา และการเชื่อมโยงถึงกันอย่างลึกซึ้ง ส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เปี่ยมด้วยความหวังและรอยยิ้มอย่างแท้จริง
ศูนย์วิจัยและองค์ความรู้โยคะหัวเราะแห่งประเทศไทย
มูลนิธิจะจัดตั้ง "ศูนย์วิจัยและองค์ความรู้โยคะหัวเราะแห่งประเทศไทย" เพื่อเป็นคลังข้อมูลและแหล่งเรียนรู้ครบวงจรด้านโยคะหัวเราะ ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย สื่อการสอน บทความ และฐานข้อมูลผู้นำ ช่วยส่งเสริมการศึกษาและงานวิจัยที่มีคุณภาพ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ศูนย์ฯ แห่งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือทางวิชาการและเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนโยคะหัวเราะในประเทศไทยให้ก้าวไกลและยั่งยืน
รวบรวมงานวิจัย
รวบรวมงานวิจัยโยคะหัวเราะทั้งในและต่างประเทศจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ พร้อมแปลและเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายและเหมาะกับบริบทของประเทศไทย
พัฒนาแหล่งเรียนรู้
สร้าง "ห้องสมุดโยคะหัวเราะออนไลน์" (e-Library) ที่เป็นคลังสื่อมัลติมีเดีย เช่น เสียง คลิป บทเรียน บทความ อินโฟกราฟิก และกรณีศึกษา เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างสะดวก
สนับสนุนงานวิจัยไทย
ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันสุขภาพในการทำวิจัยเชิงลึก เปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานหรือทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับโยคะหัวเราะ
เชื่อมโยงสู่สากล
ส่งเสริมการเข้าร่วมประชุมและเผยแพร่ผลงานวิจัยของไทยในเวทีระดับโลก เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่และนำองค์ความรู้สากลมาเผยแพร่ในประเทศ
ศูนย์วิจัยนี้มุ่งหวังให้ "เสียงหัวเราะที่ลึกที่สุด" มีรากฐานจากความรู้และความเข้าใจทางวิชาการ เป็นการวางรากฐานเสียงหัวเราะให้หยั่งลึกในแผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมผู้นำโยคะหัวเราะทุกระดับ นักศึกษา นักวิจัย ครูแนะแนว ครูสุขศึกษา นักจิตวิทยา และบุคลากรด้านสุขภาพ/สังคม ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่สนใจ การดำเนินงานของศูนย์ฯ จะช่วยยกระดับศาสตร์โยคะหัวเราะให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสริมสุขภาวะทางกายและใจของคนไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน
ความสอดคล้องกับ Laughter Yoga International
โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณค่าและหลักการดั้งเดิมของโยคะหัวเราะภายใต้ความสอดคล้องกับ Laughter Yoga International และปรัชญาอันลึกซึ้งของ Dr. Madan Kataria ผู้ก่อตั้งโยคะหัวเราะ การยึดมั่นในแนวทางนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรม การอบรม และการเผยแพร่ความรู้ทุกระดับของมูลนิธิฯ เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในด้านเนื้อหาและรูปแบบการปฏิบัติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ในการนำเสียงหัวเราะมาเป็นเครื่องมือเยียวยาและสร้างสันติสุขอย่างแท้จริง การทำงานร่วมกับองค์กรระดับโลกเช่นนี้ ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในการทำงานของเราให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น
มาตรฐานหลักสูตรระดับสากล
มูลนิธิฯ ยึดมั่นมาตรฐานหลักสูตรสากลของ Dr. Madan Kataria เพื่อการเรียนการสอนและการฝึกปฏิบัติที่มีคุณภาพสูงสุด ได้รับการยอมรับทั่วโลก และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโยคะหัวเราะในประเทศไทย
การอบรมผู้นำที่ได้มาตรฐาน
ผู้นำโยคะหัวเราะในเครือข่ายของมูลนิธิฯ จะได้รับการอบรมจาก Certified Teachers และ Master Trainers ที่รับรองโดย Laughter Yoga International เพื่อความรู้ ทักษะ และภาวะภายในที่พร้อมนำเซสชั่นอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
โครงการและความร่วมมือระดับโลก
มูลนิธิฯ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Laughter Yoga International ในการริเริ่มและดำเนินโครงการ กิจกรรม และแคมเปญต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและสากล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อขยายผลเชิงบวก
ร่วมเวทีโลกเพื่อสันติภาพ
มูลนิธิฯ ส่งเสริมผู้นำโยคะหัวเราะไทยเข้าร่วมเวทีระดับโลก เช่น Global Conference of Laughter Yoga Professionals เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และนำความรู้กลับมาพัฒนาโยคะหัวเราะในไทย ยกระดับสู่การสร้างสันติภาพระดับโลก
ความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับ Laughter Yoga International นี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของโยคะหัวเราะในประเทศไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสะพานเชื่อมโยงประเทศไทยกับชุมชนโยคะหัวเราะทั่วโลกอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของมูลนิธิฯ เพื่อเป้าหมายร่วมกันในการนำความสุข สันติสุข และความเมตตามาสู่มวลมนุษยชาติผ่านพลังบำบัดของเสียงหัวเราะที่ไร้พรมแดน
ด้วยรากฐานที่มั่นคงและได้รับการสนับสนุนจาก Laughter Yoga International โครงการจัดตั้งมูลนิธิฯ จึงพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ การฝึกฝน และการเผยแพร่โยคะหัวเราะในประเทศไทยอย่างเป็นทางการและยั่งยืน เพื่อให้เสียงหัวเราะที่เปี่ยมด้วยเมตตาและสันติสุขสามารถเข้าถึงและเป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกคนในทุกพื้นที่ของประเทศได้อย่างแท้จริง
คณะกรรมการโครงการจัดตั้งมูลนิธิ
คณะกรรมการโครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ที่รวมตัวกันด้วยความมุ่งมั่นเพื่อนำพลังแห่งเสียงหัวเราะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยั่งยืนในสังคมไทย
ครูเก๋ วรารักษ์ สู่โนนทอง
ประธานกรรมการโครงการจัดตั้งฯ และ Laughter Yoga Master Trainer หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองโดยตรงจาก Dr. Madan Kataria ผู้ก่อตั้ง Laughter Yoga International ครูเก๋มีประสบการณ์กว่าทศวรรษในการบุกเบิกและเผยแพร่โยคะหัวเราะ และเป็นผู้เชื่อมโยงโยคะหัวเราะไทยสู่เครือข่ายระดับโลก
อาจารย์คิว พลัฏฐ์ พุทธรรมธีรโชติ
กรรมการโครงการจัดตั้งฯ และที่ปรึกษาด้านการเพิ่มสมรรถนะองค์กร อาจารย์คิวเชี่ยวชาญด้าน Lifestyle Medicine และวิทยาศาสตร์การแพทย์ของเสียงหัวเราะ ท่านได้นำความรู้เชิงวิทยาศาสตร์มาผสมผสานกับการปฏิบัติโยคะหัวเราะเพื่อส่งเสริมสุขภาวะในบริบทที่หลากหลาย
อาจารย์เต้ย เมธาพัฒน์ วชิรพันธุ์เมธา
กรรมการโครงการจัดตั้งฯ และ Laughter Ambassador อาจารย์เต้ยมุ่งมั่นนำโยคะหัวเราะเข้าสู่แวดวงการศึกษาไทย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กพิเศษและเด็กด้อยโอกาส ท่านเชื่อในพลังของเสียงหัวเราะในการปลดล็อกศักยภาพและสร้างความสุขให้กับเยาวชน
ด้วยความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความมุ่งมั่นของคณะกรรมการ มูลนิธิฯ จึงพร้อมเป็นผู้นำในการเผยแพร่โยคะหัวเราะสู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายนำพาเสียงหัวเราะ ความสุข และสันติสุขไปสู่ผู้คนทุกเพศทุกวัยในทุกพื้นที่ของประเทศไทย คณะกรรมการเชื่อมั่นว่าเสียงหัวเราะคือพลังบวกที่สามารถเยียวยาจิตใจ ลดความเครียด และสร้างความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งระหว่างผู้คน
ร่วมสนับสนุน
โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์
Dr. Madan Kataria, Honorary Advisor ผู้ก่อตั้งศาสตร์โยคะหัวเราะระดับโลก Founder of Laughter Yoga International
ท่านเชื่อว่า "เสียงหัวเราะที่ไม่มีเงื่อนไข คือยาวิเศษฟรีชนิดเดียว ที่ไม่ต้องกลืน แต่กลับช่วยเปิดหัวใจของผู้คนให้กลับมาเชื่อมโยงกันได้อีกครั้ง" หลักการนี้เป็นหัวใจสำคัญที่หล่อเลี้ยงมูลนิธิฯ ให้ยังคงมุ่งมั่นนำเสียงหัวเราะไปสู่ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการมันมากที่สุด
วิสัยทัศน์ของ Dr. Kataria ในการใช้เสียงหัวเราะเป็นเครื่องมือบำบัดและสร้างสันติภาพ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนทั่วโลก และ​​มูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข ก็ตั้งใจที่จะสานต่อเจตนารมณ์อันสูงส่งนี้ เพื่อให้เสียงหัวเราะเบ่งบานไปทั่วสังคมไทย นำพาซึ่งความสุข สุขภาวะ และความเข้าใจซึ่งกันและกัน
วิธีการสนับสนุน
กลุ่มผู้ก่อตั้ง (Founding Circle)
เราเปิดรับกลุ่มผู้มีใจเดียวกัน เชิญมาร่วมกันเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง (Founding Circle) ร่วมคนละ 5,000–50,000 บาท การเข้าร่วมเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งไม่เพียงเป็นการสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังเป็นการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการวางรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับมูลนิธิฯ และกำหนดทิศทางการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมเสียงหัวเราะให้ยั่งยืนในสังคมไทย
CIRCLE FUNDING
เราจะเปิดแคมเปญระดมทุนก่อตั้งมูลนิธิฯ ในชื่อ "หัวเราะให้แผ่นดิน" ผ่านแพลตฟอร์มระดมทุนชั้นนำ อาทิ Taejai.com, Socialgiver.com, GoFundMe และ Give.asia การระดมทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างกองทุนเริ่มต้นที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิฯ และเพื่อให้เสียงหัวเราะไปถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงในวงกว้าง
ติดต่อเรา
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสนับสนุน สามารถติดต่อทีมงานของเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้ เพื่อให้เราได้มอบข้อมูลที่ครบถ้วนและตอบทุกคำถามของคุณ
เว็บไซต์: www.laughteryogathailand.org
โทร: 083-471-6556
การสนับสนุนของท่านคือหัวใจสำคัญที่ทำให้โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุขสามารถดำเนินงานตามพันธกิจได้อย่างต่อเนื่อง และขยายผลความสุขและสุขภาวะที่ดีไปสู่ผู้คนในทุกภาคส่วนของสังคมไทย
ทำไมการสนับสนุนของคุณจึงสำคัญ?
เสริมสร้างสุขภาวะทางใจ
เสียงหัวเราะช่วยลดความเครียด สร้างภูมิต้านทาน และส่งเสริมสุขภาวะทางใจให้กับผู้คนในทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย
สร้างชุมชนแห่งความสุข
กิจกรรมโยคะหัวเราะเป็นการรวมพลังผู้คน สร้างความเชื่อมโยงในชุมชน ลดความโดดเดี่ยว และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ
ส่งต่อให้เยาวชนและครอบครัว
เรามีโครงการเฉพาะที่มุ่งเน้นการนำโยคะหัวเราะเข้าสู่โรงเรียนและครอบครัว เพื่อปลูกฝังความสุขและทักษะการรับมือกับอารมณ์ตั้งแต่ยังเยาว์
พัฒนาผู้นำทั่วประเทศ
การสนับสนุนของคุณช่วยให้เราสามารถจัดการฝึกอบรมผู้นำโยคะหัวเราะที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองในระดับสากล เพื่อขยายเครือข่ายความสุขไปทั่วทุกภูมิภาค
ขับเคลื่อนสันติภาพ
เสียงหัวเราะมีพลังในการเชื่อมโยงผู้คน ลดความขัดแย้ง และสร้างบรรยากาศแห่งความเมตตา อันเป็นรากฐานสำคัญของสันติสุขในสังคม
เราเชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนจากทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นกำลังทรัพย์ หรือการร่วมลงแรง โครงการจัดตั้งมูลนิธิโยคะหัวเราะเพื่อเมตตาและสันติสุข จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน ให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข และความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนที่มอบให้